“กรมราชทัณฑ์” รื้อระบบฝากเงินนักโทษ ชู E-Payment 70 แห่งอำนวยความสะดวกญาติ-เพิ่มความโปร่งใสก่อนขยายใช้ระบบเงินฝากอิเล็กทรอนิกส์ทุกเรือนจำทั่วประเทศ
สามารถนำเงินฝากผ่านช่องทางธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ทุกสาขาทั่วประเทศ เช่น เคาน์เตอร์ธนาคารกรุงไทย ตู้เอทีเอ็ม KTB Netbank Mobile Bankingระบบ E-Payment โดยที่ญาติผู้ต้องขังจะต้องมาลงทะเบียนกับทางเรือนจำ เพื่อจัดทำบัตรฝากเงินก่อนนำเงินไปฝากให้กับผู้ต้องขังผ่านช่องที่กรมราชทัณฑ์กำหนด โดยบุคคลที่จะสามารถลงทะเบียนจัดทำบัตรเงินฝากได้ อาทิ บิดา-มารดา ภรรยา บุตร หรือพี่น้องร่วมบิดา มารดาเดียวกัน ตลอดจนบุคคลที่ผู้ต้องขังระบุให้เป็นผู้มีสิทธิ์เข้าเยี่ยม หรือตัวแทนจากหน่วยงานราชการ เช่น สถานทูต สถานเอกอัครราชทูต สถานกงสุล
ระบบเงินฝากรูปแบบใหม่ นอกจากจะเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ญาติของผู้ต้องขังให้เกิดความสะดวก รวดเร็ว ประหยัดเวลา และประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางแล้ว ยังเป็นการช่วยลดขั้นตอนการทำงานของเจ้าหน้าที่ของเรือนจำและทัณฑสถานในการเก็บรักษาเงินฝากของผู้ต้องขัง ตลอดจนทำให้เกิดความโปร่งใส ด้วยการปิดช่องว่างหรือข้อครหาเรื่องการทุจริต ตามนโยบายของกรมราชทัณฑ์ และนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ตลอดจนเป็นการตอบสนองนโยบายภาครัฐที่กำหนดให้ทุกส่วนราชการเข้าสู่ Digital Government ในการบริการประชาชนในรูปแบบ E-Service Government อย่างแท้จริง
นายอายุตม์ เปิดเผยด้วยว่า ในช่วงแรกของการเปิดใช้กรมราชทัณฑ์ได้ทำการทดลองระบบ และนำร่องในเรือนจำ 3 แห่ง และได้ขยายเรือนจำที่สามารถรับฝากเงินผ่านระบบ E-Payment รวมถึงพัฒนาคุณภาพการให้บริการแก่ญาติผู้ต้องขังเรื่อยมา ปัจจุบันมีเรือนจำ/ทัณฑสถานที่รองรับการเปิดใช้งาน E-Payment แล้ว จำนวน 70 แห่ง และจะขยายการติดตั้งระบบให้กับเรือนจำ/ทัณฑสถานทั่วประเทศในคราวต่อไปซึ่งผู้ที่ต้องการใช้บริการระบบ E-Payment สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม ผ่านทางเว็บไซต์ กรมราชทัณฑ์ http://www.correct.go.th
///////////////////////
0 ความคิดเห็น