บก.ป. รวบ 2แม่ลูกร่วมแก๊งหลอกขายลอตเตอรี่ มูลค่าเกือบ 7 ล้านบาท

วันที่ 23 ก.พ. กองบังคับการปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุปผาสุวรรณ พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว ผกก.6 บก.ป. พ.ต.ท.สมบัติ มีมงคล พ.ต.ท.ศิลป์ชัย ถวัลย์ภิยโย พ.ต.ท.กันตเมศฐ์ อัครโชควรานนท์ และ พ.ต.ท.วริศร มัจฉา รอง ผกก.6 บก.ป.

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ต.เกียรติศักดิ์ บุญทอง สว.กก.6 บก.ป. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชป.4 กก.6 บก.ป. (ชป.จชต.)

ร่วมกันจับกุม นางอำไพ (สงวนนามสกุล) อายุ 60 ปี และ น.ส.นุศรัตน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาตลิ่งชัน ที่ อ82/2565 และ อ83/2565 (ตามลำดับ) ลง 17 ก.พ.2565 ในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” โดยจับกุมตัวได้ที่บ้านละแวก ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา

ด้วยกลุ่มมิจฉาชีพได้ประกาศขายสลากกินแบ่งรัฐบาลจำนวนมากในราคาถูกผ่านเฟซบุ๊ก โดยเสนอราคาใบละ 75-82 บาท เมื่อผู้เสียหายพบประกาศดังกล่าวจึงเกิดความสนใจ และได้สั่งซื้อไปเกือบ 9 หมื่นใบ มูลค่าเกือบ 7 ล้านบาท แต่เมื่อผู้เสียหายโอนเงินไปแล้ว ก็ไม่ได้รับสลากกินแบ่งรัฐบาลแต่อย่างใด ทำให้เชื่อว่าสลากกินแบ่งรัฐบาลดังกล่าวไม่มีอยู่จริงและตนถูกหลอกลวง จึงได้แจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.บางยี่ขัน 

จากการสืบสวนสอบสวนพบว่า กลุ่มคนร้ายได้ใช้บัญชีหลายบัญชีในการรับโอนเงินจากผู้เสียหาย ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นบัญชีของ นางอำไพ (สงวนนามสกุล) และ น.ส.นุศรัตน์ (สงวนนามสกุล) ซึ่งเป็นแม่-ลูกกัน เชื่อว่ามีการวางแผนหลอกลวงกันเป็นขบวนการ จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขอศาลอนุมัติหมายจับบุคคลที่เกี่ยวข้อง

จนกระทั่งเมื่อวันที่ 22 ก.พ.2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.6 บก.ป. ได้สืบสวนจนทราบว่า นางอำไพ และ น.ส.นุศรัตน์ ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีข้างต้น ได้หลบหนีไปพักอาศัยอยู่ที่บ้านละแวก ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา จึงได้เข้าติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับข้างต้น และนำส่งพนักงานสอบสวน สน.บางยี่ขัน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

บช.ก.ขอฝากเตือนภัยถึงประชาชน สำหรับการรับจ้างเปิดบัญชีธนาคาร หรือยินยอมเปิดบัญชีธนาคารในชื่อของตน ให้ผู้อื่นใช้ทำธุรกรรมทางการเงิน ท่านอาจถูกนำบัญชีธนาคารดังกล่าวไปใช้ในทางทุจริต เช่น รับโอนเงินจากการหลอกลวงฉ้อโกงผู้อื่นทุกประเภท หรือ นำไปใช้รับโอนเงินการพนันออนไลน์ ยาเสพติด เจ้าของบัญชีธนาคาร อาจถูกดำเนินคดีอาญาได้

//////////

ขอขอบคุณ

ภาพ/ข่าว​ กมล​ แย้มอุทัย​ ผู้สื่อข่าวพิเศษ