ปคบ. และ กรมวิชาการเกษตร ร่วมตรวจค้นทลายสถานที่เก็บและจำหน่ายสารกำจัดแมลงผิดกฎหมาย

ปคบ. และ กรมวิชาการเกษตร ร่วมตรวจค้นทลายสถานที่เก็บและจำหน่ายสารกำจัดแมลงผิดกฎหมาย

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 22 ธ.ค.64 ที่ ห้องประชุม ปคบ. ชั้น4 อาคารบี ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปคบ. พ.ต.อ.สมเกียรติ ตันติกนกพร รอง ผบก.ปคบ. พ.ต.อ.อภิชาติ เรนชนะ ผกก.2 บก.ปคบ. พ.ต.ท.กานต์กนิษฐ์ จงประเสริฐ รอง ผกก.2 พ.ต.ท.ธีรภพ พันธุชาติ รอง ผกก.2 สั่งการชุดปฏิบัติการที่ 4 กก.2 ประกอบด้วย พ.ต.ต.พงษ์ธนา กรีฑา สว.กก.2 เจ้าพนักงานตำรวจ บก.ปคบ.พร้อมเจ้าหน้าที่สารวัตรเกษตรนำโดย นายกิตติพัฒน์ ใจซื่อ นักวิชาการเกษตรชำนาญ 

ร่วมทำการตรวจค้นสถานที่ดังกล่าวซึ่งเป็นโกดังไม่มีเลขที่ ต.โพทะเล อ.ค่ายบางระจัน จ.สิงห์บุรี โดยมีนายวีรพงษ์(ทราบชื่อภายหลัง) เป็นผู้ครอบครองและยินยอมให้เจ้าหน้าที่ทำการตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบ




1. สารกำจัดแมลง ชื่อการค้า โคลเลอร์ ชื่อสามัญ อีกาเมกตินเบนโซเอต จำนวน 833 ขวด

2. สารกำจัดแมลง ชื่อการค้า สิงห์โป้ง ชื่อสามัญ คลอร์พริฟอส+ไซเพอร์เมทริน จำนวน 2,877 ขวด

3. สารกำจัดแมลง ชื่อการค้า อาราก้อน ชื่อสามัญ คลอร์ไพริฟอส+ไชเพอร์เมทริน จำนวน 105 ขวด

4. สารกำจัดแมลง ชื่อการค้า ไลท์คลอร์ไพร ชื่อสามัญ คลอร์ไพริฟอส จำนวน 1,173 ขวด

5. สารกำจัดแมลง ชื่อการค้า เสือเทรลพลัส ชื่อสามัญ คลอร์ไพริฟอส+ไซเพอร์เมทริน จำนวน 105 ขวด

และวัตถุอันตรายอื่นๆอีกหลายรายการ มูลค่ารวมกว่า 2.5 ล้านบาท นำส่ง พงส. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

เบื้องต้นการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตาม พระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ.2535 ฐาน ผลิต นำเข้า ส่งออก หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 โดยไม่ได้รับอนุญาต ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 1,000,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นายฐิติพงษ์ เปิดเผยว่า ยากำจัดแมลงของกลางที่ยึดได้ มีสารคลอไพรีฟอสเป็นส่วนผสมอยู่ด้วย ซึ่งสารคลอไพรีฟอส เป็นสารต้องห้ามไม่ให้ผสมอยู่ในยากำจัดแมลง และถูกกระทรวงอุตสาหกรรมแบนพร้อมกับสารพาราควอต ที่เป็นส่วนผสมในยากำจัดวัชพืช ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2563 และให้ผู้ที่มียากำจัดแมลงและกำจัดวัชพืชที่มีส่วนผสมของสารดังกล่าว ต้องส่งคืนบริษัทผู้ผลิตเพื่อทำงลาย และกำหนดขีดเส้นตายห้ามวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 25 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เพราะว่ามีอันตรายกับเกษตรที่สุมผัสสารเคมี และผู้บริโภคที่รีบประทายผลผลิตทางการเกษตรเข้าไป ซึ่งจะส่งผลต่อสุขภาพร่างกายในอนาคต

ขณะที่พลตำรวจตรีอนันต์ เปิดเผยว่า เนื่องจากมียากำจัดวัชพืชและยากำจัดแมลงที่มีส่วนผสมของสารต้องห้ามดีงกล่าวตกค้างอยู่ในท้องตลาดจำนวนมาก จึงมีผู้ค้าบางรายลักลอบแอบจำหน่ายให้แก่เกษตรกร เพื่อไม่ต้องแบกรับภาระจากการที่ต้องส่งสารเคมีดังกล่าวไปทำลายทิ้ง ทำให้ต้องเสียเงินลงทุนไปโดยเปล่าประโยชน์


พล.ต.ต.อนันต์ ผบก.ปคบ. ฝากเตือนภัย ในกรณีที่เกษตรกรซื้อผลิตภัณฑ์สารกำจัดวัชพืชและแมลง ให้ตรวจสอบผู้ผลิต สถานที่ผลิตให้ถูกต้อง หากไม่ได้ผ่านการตรวจคุณภาพจากกรมวิชาการเกษตรหรือไม่ได้ตามคุณภาพ อาจทำให้ผลผลิตของเกษตรกรไม่เป็นไปตามเป้าหมาย และยังเป็นการเพิ่มต้นทุนในการผลิต และอาจก่อให้เกิดอันตรายแก่เกษตรกรผู้ใช้อีกด้วย

หากพี่น้องประชาชนพบเห็นการกระทำความผิด สามารถแจ้งได้ที่ สายด่วน ปคบ. 1135 หรือเพจ ปคบ. เตือนภัยผู้บริโภค

////////////

ขอขอบคุณ

ภาพ/ข่าว  กมล  แย้มอุทัย ผู้สื่อข่าวพิเศษ



แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น

Uso cookies para darte un mejor servicio.
Mi sitio web utiliza cookies para mejorar tu experiencia. Acepto Leer más