โฆษก ดีอีเอส.เผยสถิติคนแจ้งให้ตรวจสอบข่าวปลอมรอบสัปดาห์กว่า 11 ล้านข้อความ พบว่าเป็นข่าวปลอมเกี่ยวกับสุขภาพมากที่สุด

โฆษก ดีอีเอส.เผยสถิติคนแจ้งให้ตรวจสอบข่าวปลอมรอบสัปดาห์กว่า 11 ล้านข้อความ พบว่าเป็นข่าวปลอมเกี่ยวกับสุขภาพมากที่สุด

วันที่ 10 ธ.ค. “อ้อแอ้” น.ส.นพวรรณ หัวใจมั่น โฆษก กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ฝ่ายข้าราชการการเมือง เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบและมอนิเตอร์การรับแจ้งข่าวปลอมประจำสัปดาห์ ของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม(เฟคนิวส์) ระหว่างวันที่ 3-9 ธ.ค.ที่ผ่านมา พบว่าจำนวนข้อความที่ต้องดำเนินการคัดกรองมีจำนวนสูงถึง 11,589,321 ข้อความ และมีข้อความที่ต้องดำเนินการตรวจสอบ (Verify) จำนวน 188 ข้อความ

โดยเป็นจำนวนเรื่องที่ต้องดำเนินการตรวจสอบทั้งหมด 101 เรื่อง จัดแบ่งเป็นกลุ่มได้แก่

-กลุ่มนโยบายรัฐบาล /ข่าวสารทางราชการ จำนวน 41 เรื่อง 

-กลุ่มผลิตภัณฑ์สุขภาพ วัตถุอันตราย เครื่องสำอาง รวมถึงสินค้าและบริการที่ผิดกฎหมายอื่น 51   เรื่อง 

-กลุ่มภัยพิบัติ 6 เรื่อง 

-กลุ่มเศรษฐกิจ 3 เรื่อง 

ทั้งนี้เมื่อโฟกัสประเด็นข่าวที่เกี่ยวกับโควิด -19 พบจำนวน 26 เรื่อง


โฆษก ดีอีเอส.กล่าวต่อ อย่างไรก็ตามข่าวปลอมที่มีคนให้ความสนใจและเข้ามามีส่วนร่วมมากที่สุด เป็นข่าวเกี่ยวกับสุขภาพ ได้แก่

อันดับ 1 สารกันบูดที่อยู่บนผิวปลาทูนึ่ง หากสัมผัสโดนทำให้เป็นมะเร็งผิวหนัง 

อันดับ 2 การ Swab ลึกถึงเพดานจมูก ทำให้เนื้อเยื่อพังผืดที่ห่อหุ้ม Olfactory Nerve เสียหาย ส่งผลเสียต่อสุขภาพ 

อันดับ 3 ผู้ที่มีชื่อเป็นเจ้าบ้าน ได้รับเงินเยียวยา 15,000 บาท 

อันดับ 4 ผู้ว่าจังหวัดภูเก็ต อนุมัติงบสร้างมัสยิด 56 ล้านบาท และขนชาวมุสลิมเดินทางเข้าภูเก็ต 

อันดับ 5 น้ำแข็งยูนิคใส่สารฟอร์มาลีน ทำให้คนไทยเป็นโรคมะเร็งอันดับ 1

“กระทรวงดีอีเอส. และศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม เห็นถึงความสำคัญของประชาชนที่จะเป็นภาคส่วนสำคัญในการช่วยกันแก้ไขปัญหาข่าวปลอม เมื่อได้รับข่าวสารข้อมูลผ่านโซเชียล ควรตรวจสอบให้รอบด้าน เลือกเชื่อ เลือกแชร์ และสามารถติดตามและแจ้งเบาะแสข่าวปลอม ได้ผ่านช่องทางต่างๆ ของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ดังนี้ 

-ไลน์ @antifakenewscenter  -เว็บไซต์ https://www.antifakenewscenter.com/

-ทวิตเตอร์ https://twitter.com/AFNCThailand  และช่องทางโทรศัพท์โทรสายด่วน GCC 1111 ต่อ   87” น.ส.นพวรรณ ฯ กล่าว

//////////////

ขอขอบคุณ

ภาพ/ข่าว  กมล  แย้มอุทัย  ผู้สื่อข่าวพิเศษ

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น

Uso cookies para darte un mejor servicio.
Mi sitio web utiliza cookies para mejorar tu experiencia. Acepto Leer más