ครูพัฒนาเด็กเล็ก ร่ำไห้ขอความเป็นธรรมผู้ตรวจการแผ่นดินกรณีบรรจุแต่งตั้งเป็นกรณีพิเศษชอบด้วยกฎหมายหรือไม่

ครูพัฒนาเด็กเล็ก ร่ำไห้ขอความเป็นธรรมผู้ตรวจการแผ่นดินกรณีบรรจุแต่งตั้งเป็นกรณีพิเศษชอบด้วยกฎหมายหรือไม่


เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 2 พ.ย. ที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ชั้น 5 กลุ่มสหพันธ์ครูผู้ดูแลเด็กแห่งประเทศไทย ภาคอีสาน (กลุ่มครูผู้ดูแลเด็ก ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก สังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น/ครู ผดด.ของ อปท.) นำโดย นายสมคิด หอมเนตร ประธานเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน สมัชชาคุณธรรมแห่งชาติ/ที่ปรึกษาสหพันธ์ครูผู้ดูแลเด็กแห่งประเทศไทย และนางเกษมณี พันธุ์ครู ประธานสหพันธ์ครูผู้ดูแลเด็กแห่งประเทศไทย เดินทางยื่นหนังสือถึง นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ตรวจการแผ่นดิน เรื่อง ให้ส่งคำร้องขอไปยัง ศาลรัฐธรรมนูญกรณีข้อเรียกร้องการบรรจุแต่งตั้งเข้ารับราชการเป็นกรณีพิเศษชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ นั้น โดยมี นายปิยะ ลือเดชกุล ผอ.สำนักตรวจสอบเรื่องร้องเรียน รับดำเนินการในส่วนที่เกื่ยวข้องนำเรียนผู้ตรวจการแผ่นดินต่อไป

นายสมคิด หอมเนตร ในฐานะตัวแทน พร้อมผู้เสียหายจาก ร้อยเอ็ด และ นนทบุรี อ้างถึง ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก สังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น/ครู ผดด.ของ อปท.) 19,429 แห่งในส่วนที่สังกัด อปท. พร้อม ศูนย์การเรียนรู้ 307 แห่งที่ได้รับผลกระทบจากการถ่ายโอนการดูแลเด็กมาสังกัด อปท. ตั้งแต่ปี 46 เรี่อยมาโดยเมีอปี2554 ทาง คณะกรรมการ 3 ก. กระทรวงมหาดไทย ได้ออกการดำเนินการสรรหาบุคคลากรเข้ารับราชการ โดยอ้างมีการแสวงหาผลประโยชน์ ยกตัวอย่าง จ.กาฬสินธ์ุ ราชบุรี เรียกรับผลประโยชน์ในการบรรจุฯ เป็นกรณีพิเศษ กระทั่ง 3 ก.ย.60 มีการออก ยกเลิกการสรรหาเป็นกรณีพิเศษ โดยส่งผลต่อครูที่รอบรรจุตามโครงการดังกล่าว




ก่อนส่งเรื่องไปยังส่วนต่างๆ อาทิ นายกรัฐมนตรี,รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น
ในฐานะฝ่ายบริหาร,ประธานสภาผู้แทนราษฎร รับพิจารณา,ประธานคณะกรรมาธิการการศึกษา สภาผู้แทนราษฎร ,ประธานคณะกรรมาธิการการกระจายอำนาจและการปกครองส่วนท้องถิ่น สภาผู้แทนราษฎรเพี่อให้มีการทบทวนมติของคณะกรรมการ 3 ก. กระทรวงมหาดไทย ดังกล่าว แต่มีการยีนยันจะไม่มีการทบทวน จนต่อมามีการยื่นเรี่องต่อศาลปกครองกลาง และศาลปกครองสูงสุด โดยศาลปกครองสูงสุดได้ยกคำฟ้อง เนื่องจากอ้างว่าเกินระยะเวลาเกินกว่ากฎหมายกำหนด



ซึ่งต่อมา ทางกลุ่มฯได้มีการยกข้อเปรียบเทียบบุคคลากรของกระทรวงสาธารณสุข รวมถึง กระทรวงศึกษาธิการให้บรรจุเป็นกรณีพิเศษได้ อาทิ คณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (กคศ.) และ สำนักงานคณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ) กระทรวงศึกษาธิการ ได้อนุญาตให้ดำเนินการสรรหาและบรรจุแต่งตั้งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วยในกรณีมีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนเป็นกรณีพิเศษได้ และ ให้มีการสรรหาบรรจุและแต่งตั้งข้าราชการใหม่ของกระทรวงสาธารณสุข ในสถานการณ์โควิด19 ของพนักงานและลูกจ้างกระทรวงสาธารณสุข จำนวน 45, 105 อัตรา/ตำแหน่งโดยไม่ขัดหรือแย้งกับมาตรา 27 รธน. 2560 แต่อย่างใด


พวกตน จึงเดินทางมาร้องขอให้ทางสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินฯ ส่งเรี่องวินิจฉัยมติของ คณะกรรมการ 3 ก. กระทรวงมหาดไทย และ ครม. ไปยังตุลาการศาลธรรมนูญ เพื่อศาลธรรมนูญ ได้มีคำวินิจฉัยตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป ว่าชอบด้วยกฏหมายหรีอไม่อย่างไร

ในส่วนครูผู้ได้รับผลกระทบ จาก จ.นนทบุรี เรียกร้อง การพิจารณาให้มีการจัดสอบภายในเหมือนที่เคยปฏิบัติ ซึ่งเดิมกลุ่มครูเหล่านี้มีค่าตอบแทนเพียง 10,000-15,000 บาท จึงควรมีการพิจารณาให้ได้รับการบรรจุในท้องถิ่น

ครูผู้ได้รับผลกระทบ จาก จ.ร้อยเอ็ด กล่าวด้วยน้ำเสียสั่นเครือพร้อมร้องไห้เสียใจ ที่มีการยกเลิก จากเดิมที่คาดการณ์ว่าจะมีการบรรจุ โดยเป็นครูลูกจ้างมากว่า 20 ปี ขอโอกาสให้มีสิทธิ์ในการเปิดสอบ จากเดิมที่ขึ้นบัญชืรอ กระทั่งเกิดการยกเลิก

////////////////

ขอขอบคุณ
ภาพ/ข่าว  กมล  แย้มอุทัย  ผู้สื่อข่าวพิเศษ


แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น

Uso cookies para darte un mejor servicio.
Mi sitio web utiliza cookies para mejorar tu experiencia. Acepto Leer más