วันที่ 8 ตุลาคม 2564 กองบัญชาการตํารวจสอบสวนกลางโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พล.ต.ต.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปคบ. พ.ต.อ.สําเริง อำพรรทอง พ.ต.อ.ชนันนัทธ์ สารถวัลย์แพศย์ รอง ผบก.ปคบ. พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.4 บก.ปคบ. พร้อมสํานักงาน คณะกรรมการอาหารและยาโดย นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา และ ภญ.สุภัทรา บุญเสริม ผู้ทรงคุณวุฒิด้านมาตรฐานผลิตภัณฑ์ด้านสาธารณสุข รักษาราชการแทนรองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ร่วมกันแถลง ผลการปฏิบัติ กรณีจับกุมผู้ลักลอบจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมความงามที่ไม่ได้รับอนุญาต ผ่านทางเว็บไซต์ www.whiteplusmm.com
สืบเนื่องจาก ผลการปฏิบัติงานในช่วงปีงบประมาณ 2564 กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ตรวจค้นสถานเสริมความงามที่ไม่ได้ รับอนุญาต (คลินิกเถื่อน) และจับกุมผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต (หมอกระเป๋า) พร้อมตรวจยึดผลิตภัณฑ์ เสริมความงามที่ผิดกฎหมายได้เป็นจำนวนมาก จากการตรวจสอบพบมีการใช้กรดไฮยาลูรอนิค ชนิดฉีด (ฟิลเลอร์) ที่ยังไม่ได้ รับอนุญาตจาก อย. มา ฉีดให้กับผู้ใช้บริการเพื่อแก้ไขข้อบกพร่องของผิวหนัง ซึ่งอาจเกิดอันตรายแก่ร่างกายได้
พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปคบ.จึงได้สั่งการให้ พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.4 บก.ปคบ. ประสานข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ อย. สืบสวนขยายผลหาแหล่งนำเข้าและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมความงามที่ไม่ได้รับอนุญาต ดังกล่าว จากการสืบสวนขยายผล พบมีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมความงามที่ไม่ได้รับอนุญาต ผ่านทางเว็ปไซด์ www.whiteplusmn.com
ต่อมาเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2564 เจ้าหน้าที่ตารวจ กก.4 บก.ปคบ. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ อย. นำหมายค้นของศาลอาญา เข้าตรวจค้นบ้านพัก ซอยลาดพร้าว 29 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นสถานที่ เก็บผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์ยาและเครื่องมือแพทย์ ผลการตรวจค้นพบ ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์ยาและ เครื่องมือแพทย์ จำนวน 65 รายการ ตรวจยึดของกลางจำนวนมาก มูลค่ากว่า 4,000,000 บาท นำส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดาเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
เบื้องต้น พบการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติยา พ.ศ. 2510 ฐาน “ขายยาแผนปัจจุบัน โดยไม่ได้รับอนุญาต” และฐาน “ขายยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตํารับยส" ต้องระวางโทษสูงสุด จำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 10,000 บาท และตามพระราชบัญญัติเครื่องมือแพทย์ พ.ศ. 2551 ฐาน “ขายเครื่องมือแพทย์โดยไม่ได้รับอนุญาต” ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปคบ. การดำเนินการในครั้งนี้เป็นการร่วมมือกันระหว่าง ตารวจสอบสวน กลาง โดย ปคบ.และ อย. ในการป้องกันอันตรายอันอาจเกิดแก่พี่น้องประชาชนที่ใช้บริการสถานเสริมความงามที่ไม่ได้รับ อนุญาต รวมถึงเครื่องมือแพทย์และผลิตภัณฑ์เสริมความงามที่ไม่ได้รับอนุญาต และขอเตือนไปยังผู้ที่กระทำความผิดให้หยุด การกระทำดังกล่าว หากตรวจพบจะดำเนินการตามกฎหมายให้ถึงที่สุด และฝากความห่วงใยถึงพี่น้องประชาชน ควรใช้ บริการกับสถานเสริมความงามที่น่าเชื่อถือ ควรตรวจสอบใบอนุญาตและตรวจสอบผลิตภัณฑ์ยาที่จะใช้ว่าได้รับอนุญาต ถูกต้อง หากพี่น้องประชาชนพบเห็นการกระทำความผิด สามารถแจ้งได้ที่ สายด่วน ปคบ. 1135 หรือ เพจ ปคบ. เตือนภัยผู้บริโภค
ภญ.สุภัทรา บุญเสริม ผู้ทรงคุณวุฒิด้านมาตรฐานผลิตภัณฑ์ด้านสาธารณสุข รักษาราชการแทน รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวในตอนท้ายว่า ปัจจุบันพบว่า ประชาชนทุกเพศ ทุกวัย ต้องการดูแล ภาพลักษณ์ของตนเองให้ดูดีอยู่เสมอ สถานเสริมความงามก็ทำการตลาดด้วยการโฆษณาขายยาฉีดฟิลเลอร์ โบท็อกซ์ คอลลาเจน กลูตาไธโอน และเครื่องสำอางทางเว็บไซด์และช่องทางต่าง ๆ เพื่อเชิญชวนลูกค้ามาใช้บริการของตน จึงขอฝาก ผู้ที่ต้องการรับบริการให้ระวัง ควรเข้ารับบริการฉีดกับสถานพยาบาลที่มีใบอนุญาตประกอบสถานพยาบาลตามกฎหมาย และ มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญต้องอยู่ประจำอยู่ ก่อนการฉีดควรสอบถามและขอดูตัวสารที่ฉีดที่ว่าได้รับอนุญาตถูกต้องตามกฎหมายจาก อย. หรือไม่ เพราะอาจเสี่ยงต่อการเสียโฉมหรือเสียชีวิตตามที่เห็นข่าวมาแล้วนับไม่ถ้วน เพราะการศัลยกรรมหรือการฉีดบน ใบหน้าต้องดำเนินการโดยแพทย์ที่มีความรู้ด้านกายวิภาคบนใบหน้าเป็นอย่างดีเนื่องจากบนใบหน้ามีกล้ามเนื้อเล็ก ๆ และ เส้นเลือดมากมาย จึงต้องฉีดด้วยความระมัดระวังหากเกิดอันตรายจากการแพ้ ทางสถานพยาบาลจะได้รับผิดชอบและ ช่วยเหลือได้ หากพบเห็นการกระทำความผิดให้แจ้งเบาะแสมาที่สายด่วน อย. โทร. 1556 หรือร้องเรียนผ่าน Oryor Smart Application หรือสานักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ
ขอขอบคุณ
ภาพ/ข่าว กมล แย้มอุทัย ผู้สื่อข่าวพิเศษ
/////////////////////
0 ความคิดเห็น